นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า
ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged
Society) ภายในปี 2568 นี้ จะมีผู้สูงอายุประมาณ 14.4 ล้านคน
หรือเพิ่มขึ้นเกินร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด กล่าวคือจะมีผู้สูงอายุ 1
คนในประชากรทุก 3 คน การจัดการดูแลผู้สูงอายุระยะยาวจึงเป็นเรื่องสำคัญ
ประกอบกับการตรวจคัดกรองสุขภาพผู้สูงอายุของกระทรวงสาธารณสุข 6,394,022 คน
พบว่า เป็นผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง กลุ่มติดบ้าน ติดเตียง
ที่ต้องได้รับการบริการด้านสุขภาพและสังคมประมาณ 1.3 ล้านคน
กระทรวงสาธารณสุขจึงดำเนินงานโครงการพัฒนาระบบดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุข
สำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงในพื้นที่ตำบล (Long Term
Care) จัดระบบการดูแลที่มีประสิทธิภาพ ยั่งยืน
เป็นบริการเชิงรุกให้บริการถึงบ้าน
เน้นการส่งเสริมสุขภาพและดูแลผู้สูงอายุให้ได้รับการดูแลจากทีมสหวิชาชีพ
จากหน่วยบริการปฐมภูมิอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
โดยการดูแลผู้สูงอายุให้มีสุขภาพแข็งแรง ส่วนหนึ่งคือการทำกายภาพบำบัด
ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญ ไม่ว่าจะก่อนป่วย หลังป่วย ต้องอาศัยการทำกายภาพบำบัด
เพื่อเป็นความหวังและกำลังใจสำคัญร่วมกับการให้ยา
โดยในปีนี้จะดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงทั่วประเทศ 100,000 คนในพื้นที่
1,000 ตำบล และจะขยายให้ครอบคลุมครบทุกตำบล 100% ในปี 2561
เพื่อให้ผู้สูงอายุที่ป่วยติดเตียง กลายเป็นผู้สูงอายุติดบ้าน
และจากผู้สูงอายุติดบ้าน เป็นติดสังคม ติดชุมชน ให้ออกมาทำกิจกรรมต่างๆ
ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมได้ ทั้งนี้ชุมชนต้องให้ความช่วยเหลือ
สนับสนุนกิจกรรมให้ผู้สูงอายุดูแลกัน
เพราะผู้สูงอายุจะเข้าใจกันและกันมากที่สุด
https://www.hfocus.org/content/2016/06/12304

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น